Giko Smile คือการครอบฟันขาวทั้งปากแบบถอดได้ ซึ่งเป็นชิ้นฟันปลอมที่ผลิตขึ้นมาจากรอยพิมพ์ปากเฉพาะบุคคล ด้วยการนำมาสวมทับบนฟันจริง เพื่อแก้ปัญหารูปร่าง สี ขนาดและการเรียงตังของฟัน ให้ดูดีขึ้น โดยที่คนไข้ไม่ต้องกรอฟัน ไม่ต้องใช้วัสดุยึดติดในการครอบฟันขาว และสามารถถอดเองได้สะดวก วัสดุที่นำมาใช้ผลิตเป็นเรซินสีใกล้เคียงกับฟันจริงที่สามารถปรับแต่งสีได้ตามต้องการ รวมทั้งยังมีความยืดหยุ่นขณะใส่เข้าไปในปาก
ลักษะฟันที่ควรทำ Giko Smile
ผู้ต้องการทำ Giko Smile คือคนที่มีปัญหาฟันในเรื่องของ ฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันซีด ฟันขุ่น หรือสีฟันไม่สม่ำเสมอ ฟันบิ่น ฟันหัก ฟันห่างที่เป็นไม่มาก และผู้ที่ไม่สามารถรักษาด้วยการทำสะพานฟันหรือรากฟันเทียมได้ และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างรอยยิ้มสวยภายในเวลาอันรวดเร็วและสามารถใส่หรือถอดได้อย่างอิสระเมื่ออยากจะเลิกใช้งาน
ขั้นตอนการทำ
- พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก โดยไม่มีการกรอผิวฟันใดๆ ทั้งสิ้น
- ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากและเลือกสีฟันรวมกับคนไข้
- เมื่อได้แบบพิมพ์ฟันเราแล้ว แพทย์จะส่งไปแลปทันตกรรม เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการผลิต ซึ่งจะใช้เวลาทำประมาณ 10 วัน
- แพทย์จะนัดเรามาเพื่อมารับอุปกรณ์ครอบฟันของเราพร้อมแนะนำวิธีใช้และการดูแลรักษา รวมทั้งอาจมีการปรับแก้หากอุปกรณ์ครอบฟันไม่พอดี หรือแน่นไป
ข้อดีของ Giko Smile
การทำ Giko Smile เป็นทันตกรรมเพื่อเสริมบุคลิกที่ดีบนใบหน้า ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่คนไข้ รวมทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาฟันต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีข้อดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- ไม่ต้องกรอฟัน ทำให้คนไข้ไม่ต้องเสียเนื้อฟันโดยไม่จำเป็นและช่วยให้ไม่ต้องเจ็บตัวระหว่างขั้นตอนการทำ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดการเสี่ยวฟัน ไม่ทำลายเนื้อฟัน และไม่ต้องปรับแต่งโครงฟันของคนไข้เลย
- เห็นผลการรักษาได้เร็ว เพราะรอเพียงขั้นตอนการผลิต 10 วัน ก็สามารถมีฟันที่สวยงามได้แล้ว ไม่เหมือนกับการจัดฟันที่ต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะเห็นผล
- สามารถเลือกเฉดสีความขาวของฟันได้ ตามที่เราต้องการ และการทำ Giko Smile จะครอบคลุมฟันถึงด้านในสุด สามารถอ้าปากกว้างๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะเห็นรอยอุดฟันหรือรอยอื่นๆ
- มีความยืดหยุ่นระดับหนึ่ง สามารถสวมใส่ได้พอดีกับฟัน เลยไม่จำเป็นต้องติดกาวหรือใช้อะไรยึด วัสดุที่ใช้เป็นเรซินบางพิเศษ ที่มีคุณสมบัติยืดเล็กน้อย ไม่แข็งเหมือนพลาสติก ไม่ทำให้เหงือกระคายเคือง ถอดและใส่ได้อย่างสะดวก
- ส่วนใหญ่ไม่มีผลต่อการออกเสียง
- ดูแลและทำความสะอาดง่าย และไม่สร้างปัญหาฟันผุจากเศษอาหารที่เกาะตามซอกฟัน เพราะสามารถถอดออกง่ายเมื่อรับประทานอาหาร
- คนที่ไม่มีปัญหาการเรียงตัวของฟัน ก็สามารถทำได้
ข้อเสียของการทำ Giko Smile
- เมื่อทำแล้วอาจจะทำให้ฟันของคนไข้ดูใหญ่ขึ้น ไม่เหมาะกับคนที่มีฟันขนาดใหญ่อยู่แล้ว อาจจะทำให้ฟันดูใหญ่ขึ้นไปอีก
- ในกรณีที่โครงสร้างของฟันมีรูปแบบการเรียงตัวที่ไม่เหมาะสม ฟันสบเปิด ฟันเหยิน การทำ Giko Smile นี้จะไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ เพราะต้องใช้ทันตกรรมจัดฟันเข้ามาทำการรักษาแทน
- อย่าบิดอุปกรณ์ครอบฟันเล่น หรือใช้มือบีบถ่าง เพราะอาจจะทำให้เสียรูปทรงได้
- เวลารับประทานอาหาร ควรถอดอุปกรณ์ครอบฟันออก เพราะอาจจะทำให้เคี้ยวไม่ค่อยสะดวกและเศษอาหารเข้าไปติดฟันได้ หรือแม้แต่การดื่มเครื่องสีจัดๆ เพราะอาจทำให้อุปกรณ์เคลือบฟันเปลี่ยนสีได้ง่าย
- ราคาของการทำ Giko Smile ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับวิธีการทำให้ฟันขาวแบบอื่นๆ แต่ด้วยขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากและอายุการใช้งานที่นาน เลยทำให้เป็นอีกทางเลือกที่มีความนิยมเพิ่มมากขึ้น
การดูแลรักษาอุปกรณ์ครอบฟัน
- การทำความสะอาด ควรล้างด้วยน้ำเปล่าแล้วใช้แปรงขัดเบาๆ เช็ดหรือผึ่งให้แห้ง ห้ามใช้น้ำร้อนลวกหรือล้าง เพราะจะทำให้เสียรูปทรง ซึ่งหากเสียรูปทรงแล้วจะใส่ไม่พอดีฟัน
- ไม่ควรถอดอุปกรณ์ครอบฟันออกแล้วห่อกระดาษชำระไว้ เพราะอาจทำให้หายหรือหลงลืมได้
- เมื่อถอดและทำความสะอาดอุปกรณ์ครอบฟันเสร็จแล้ว คนไข้ต้องรักษาความสะอาดช่องปากตามปกติ
- การดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ครอบฟันเป็นอย่างดี จะช่วยให้การทำ Giko Smile มีอายุอยู่ได้ถึง 2 ปีเลยทีเดียว
จุดเริ่มต้นของ Giko Smile มาจากช่างเทคนิคชาวญี่ปุ่น ที่ผลิตชิ้นงานที่พอดีกับช่องปากคนไข้ จนกระทั้งพัฒนามาเป็น Giko Smile ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการเคลือบฟันแบบขาวทั้งปากและสามารถถอดได้นี้ เป็นการช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ผู้ทำ ช่วยเรียกความมั่นใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยใช้หลังการง่ายๆ ด้วยการทำฟันปลอมแบบถอดง่ายใส่ง่ายมาสวมทับฟันจริงเอาไว้ แต่ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพทำให้ฟันปลอมชนิดนี้เนียนเรียบไปกับฟันจริง และทำให้คนไข้มียิ้มที่แลดูเป็นธรรมชาติ สามารถหยิบมาส่วมตามวาระโอกาสที่ต้องการ